คู่มือเลือกซื้อ เครื่องทำน้ำร้อน: จบทุกความต้องการในที่เดียว

เครื่องทำน้ำร้อน

“เครื่องทำน้ำร้อน” คำสั้นๆ แต่สร้างความสับสนได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ? บางคนนึกถึงเครื่องตัวเล็กๆ หน้าห้องน้ำ บางคนนึกถึงถังใหญ่ๆ บนดาดฟ้า แล้วแบบไหนล่ะที่เหมาะกับบ้านเรา?

ความจริงก็คือ “เครื่องทำน้ำร้อน” ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่มีหลายเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่การอาบน้ำด้วยฝักบัวในคอนโด ไปจนถึงการเติมอ่างอาบน้ำในบ้านหรู หรือระบบน้ำร้อนสำหรับโรงแรมทั้งตึก วันนี้ Forbest จะมาเป็นไกด์ ช่วยคุณเลือก “เครื่องทำน้ำร้อน” ที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณครับ

ทำไมคุณถึงวางใจในข้อมูลของเรา

ที่ Forbest เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมระบบน้ำร้อนและ Wellness ตัวจริง ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี เราไม่ได้เชี่ยวชาญแค่เทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง แต่เราออกแบบและติดตั้งมาแล้วทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทำน้ำร้อนแบบถังเก็บ, ฮีทปั๊มประหยัดพลังงาน, หรือระบบโซล่าร์ สำหรับลูกค้าตั้งแต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงโครงการระดับประเทศอย่างโรงพยาบาลและโรงแรม 5 ดาว ข้อมูลนี้มาจากประสบการณ์ตรงของเราครับ

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ Forbest:

  • ที่อยู่: 898/24 อาคาร S.V.CITY ตึกออฟฟิศ 2 ชั้น 15 ถ.พระราม3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. 10120
  • โทร: (+66) 2682 5381-8
  • เว็บไซต์: www.forbest.co.th
  • LINE ID: @forbest

เคลียร์ชัด! “เครื่องทำน้ำอุ่น” กับ “เครื่องทำน้ำร้อน” ต่างกันอย่างไร?

นี่คือความสับสนอันดับหนึ่งของคนไทยครับ

  • “เครื่องทำน้ำอุ่น” (Instant): คือเครื่องตัวเล็กที่ติดหน้าห้องน้ำ ทำน้ำอุ่นแบบ “ผ่านร้อน” ใช้ได้ทีละ 1 จุด (เช่น ฝักบัว 1 อัน) ไม่เหมาะกับการเติมอ่างอาบน้ำ
  • “เครื่องทำน้ำร้อน” (System): คือ “ระบบ” ที่ผลิตน้ำร้อนปริมาณมาก แล้ว “เก็บ” ไว้ในถัง หรือผลิตแบบต่อเนื่องด้วยกำลังสูง เพื่อจ่ายน้ำร้อนไปใช้ได้ “หลายจุดพร้อมกัน” (เช่น ฝักบัวห้อง 1, อ่างล้างหน้าห้อง 2, และอ่างอาบน้ำ)

บทความนี้ เราจะเน้นไปที่ “ระบบเครื่องทำน้ำร้อน” สำหรับคนที่ต้องการมากกว่าแค่ฝักบัวจุดเดียวครับ

รู้จักประเภทของ เครื่องทำน้ำร้อน ก่อนตัดสินใจ

ระบบเครื่องทำน้ำร้อนในปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลักๆ 4 ประเภท แต่ละแบบมีจุดดีจุดเด่นต่างกัน

เครื่องทำน้ำร้อนแบบถังเก็บ (Storage Water Heater)

นี่คือระบบคลาสสิกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบ้านพักอาศัยและโรงแรมขนาดเล็ก ใช้ “ขดลวดไฟฟ้า” (Heater) ต้มน้ำในถังเก็บที่มีฉนวนหุ้ม จนได้อุณหภูมิที่ตั้งไว้ แล้วเก็บรอให้เราใช้งาน

  • ข้อดี: จ่ายน้ำร้อนได้เสถียรมาก อุณหภูมิคงที่ เหมาะกับการเติมอ่างอาบน้ำ และใช้หลายจุดพร้อมกัน แบรนด์คุณภาพอย่าง Ariston หรือ Everhot มีความทนทานสูงมาก
  • ข้อควรพิจารณา: ใช้พื้นที่ติดตั้งถัง และมีการสูญเสียความร้อน (Standby Loss) เล็กน้อยขณะเก็บน้ำร้อน

เครื่องทำน้ำร้อน ฮีทปั๊ม (Heat Pump Water Heater)

นี่คือ “ราชาแห่งการประหยัดไฟ” และเป็นเทคโนโลยีที่โรงแรมใหญ่ๆ เลือกใช้ หลักการคือ “ย้าย” ความร้อนจากอากาศ มาถ่ายเทให้น้ำ (เหมือนแอร์ที่ทำงานกลับด้าน)

  • ข้อดี: ประหยัดไฟสูงสุด 70-90% เมื่อเทียบกับหม้อต้มไฟฟ้า คุ้มทุนเร็วมากสำหรับธุรกิจ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ข้อควรพิจารณา: ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าแบบถังเก็บ และต้องมีพื้นที่ติดตั้งตัวเครื่อง (คล้ายคอมเพรสเซอร์แอร์)

เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Thermal)

ระบบ “สายกรีน” ที่ใช้พลังงานจากธรรมชาติ 100% โดยใช้แผงรับความร้อนจากแสงแดด (ไม่ใช่แผงโซล่าเซลล์) มาทำให้น้ำร้อนโดยตรง

  • ข้อดี: พลังงาน “ฟรี” จากแสงแดด ไม่เสียค่าไฟในการต้มน้ำเลย
  • ข้อควรพิจารณา: ต้องมีพื้นที่บนดาดฟ้า และต้องมีระบบสำรอง (เช่น ฮีทปั๊ม หรือหม้อต้ม) ไว้ในวันที่ฝนตกหรือแดดน้อย

เครื่องทำน้ำร้อนแบบผ่านร้อน (Instant / Tankless)

นี่คือ “เครื่องทำน้ำอุ่น” ที่เราคุ้นเคยนั่นเองครับ ถูกจัดเป็นประเภทย่อยของเครื่องทำน้ำร้อนเช่นกัน

  • ข้อดี: ประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องมีถังเก็บ มีน้ำอุ่นใช้ไม่จำกัด (ตราบใดที่น้ำไหล)
  • ข้อควรพิจารณา: ใช้ได้ทีละ 1 จุด กำลังการผลิตไม่พอสำหรับอ่างอาบน้ำ

ตารางเปรียบเทียบ: เลือก เครื่องทำน้ำร้อน แบบไหนให้เหมาะกับคุณ

ประเภท เครื่องทำน้ำร้อนเหมาะสำหรับการประหยัดไฟจุดเด่นข้อควรพิจารณา
แบบถังเก็บ (Storage)บ้านมีอ่างอาบน้ำ, คอนโด, ใช้ 2-3 จุดปานกลางน้ำร้อนนิ่ง เสถียร ทนทานใช้พื้นที่ถัง, มี Standby Loss
ฮีทปั๊ม (Heat Pump)โรงแรม, โรงพยาบาล, บ้านขนาดใหญ่สูงสุด (ประหยัด 70-90%)คุ้มทุนเร็ว, ทำงาน 24 ชม.ต้นทุนเริ่มต้นสูง, ใช้พื้นที่
โซล่าร์ (Solar Thermal)โรงแรม, โรงงาน, บ้านที่เน้นประหยัดสูง (พลังงานฟรี)เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต้องมีแดด, ต้องมีระบบสำรอง
แบบผ่านร้อน (Instant)คอนโด, หอพัก (ฝักบัว 1 จุด)ดี (ใช้ไฟเมื่อเปิด)ประหยัดพื้นที่, ร้อนทันทีใช้ได้จุดเดียว, ไม่เหมาะกับอ่าง

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ เครื่องทำน้ำร้อน

การใช้งาน: แค่ฝักบัว หรือมีอ่างอาบน้ำ?

นี่คือคำถามแรกที่ต้องตอบ ถ้าคุณต้องการเติม “อ่างอาบน้ำ” คุณต้องตัด เครื่องทำน้ำร้อนแบบผ่านร้อน (เครื่องทำน้ำอุ่น) ทิ้งไปได้เลย และต้องเลือกใช้ “แบบถังเก็บ (Storage)” หรือระบบ “ฮีทปั๊ม” เท่านั้น

จำนวนจุดที่ใช้งานพร้อมกัน (Multi-Point)

ถ้าคุณต้องการใช้น้ำร้อนพร้อมกัน 2-3 จุด (เช่น อาบน้ำห้องหนึ่ง + ล้างจานในครัว) ระบบ Instant จะรองรับไม่ไหว คุณต้องใช้ระบบที่มี “ถังเก็บ” (Storage หรือ Heat Pump)

การเลือกขนาด (ลิตร) ให้เหมาะสม

หากเลือกใช้แบบถังเก็บ ขนาดถังเป็นสิ่งสำคัญ

  • 50-80 ลิตร: สำหรับคอนโด (ฝักบัว 1-2 ห้อง, ไม่มีอ่าง)
  • 100-150 ลิตร: สำหรับบ้าน (2-3 ห้องน้ำ, มีอ่างอาบน้ำเล็ก)
  • 200-300+ ลิตร: สำหรับบ้านขนาดใหญ่ (มีอ่างอาบน้ำใหญ่, Rain Shower)

การติดตั้งและระบบความปลอดภัยที่ต้องรู้

ระบบไฟ 1 เฟส หรือ 3 เฟส?

เครื่องทำน้ำร้อนแบบถังเก็บ ขนาดเล็ก (ไม่เกิน 100-150 ลิตร) มักใช้ไฟ 1 เฟส (ไฟบ้านปกติ) แต่ถ้าเป็นรุ่นใหญ่, ฮีทปั๊ม, หรือระบบ Commercial สำหรับโรงแรม ส่วนใหญ่จะต้องใช้ไฟ 3 เฟส ซึ่งต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าของอาคารก่อน

วาล์วผสม (Thermostatic Mixing Valve) จำเป็นไหม?

การต้มน้ำในถังเก็บมักจะตั้งอุณหภูมิไว้สูง (60-70°C เพื่อฆ่าเชื้อ) ซึ่งร้อนเกินไปสำหรับการอาบน้ำ การติดตั้ง “วาล์วผสม” จะช่วยผสมน้ำร้อนและน้ำเย็นให้ได้อุณหภูมิที่ปลอดภัยและคงที่ (เช่น 45°C) ก่อนจ่ายไปที่ก๊อก ช่วยป้องกันน้ำร้อนลวก และยังประหยัดน้ำร้อนในถังได้ด้วย

เครื่องทำน้ำร้อน สำหรับธุรกิจ (โรงแรม, โรงพยาบาล)

สำหรับภาคธุรกิจ การเลือก เครื่องทำน้ำร้อน จะเน้นที่ “จุดคุ้มทุน (ROI)” และ “ความเสถียร”

ระบบที่นิยมที่สุดคือ “ระบบ Hybrid” ซึ่งเป็นการนำข้อดีของ ฮีทปั๊ม + โซล่าร์ มาทำงานร่วมกัน

  • กลางวัน: ใช้โซล่าร์ทำน้ำร้อน (ฟรี)
  • กลางคืน/ฝนตก: ฮีทปั๊มทำงาน (ประหยัดไฟ 70%)

ระบบนี้ให้ความเสถียร 24 ชั่วโมง โดยที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด

บทสรุป: เครื่องทำน้ำร้อน ที่ “ใช่” สำหรับคุณ

ไม่มี เครื่องทำน้ำร้อน ที่ดีที่สุด มีแต่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณ

  • คอนโด/ฝักบัว 1 จุด: เลือก “แบบผ่านร้อน” (เครื่องทำน้ำอุ่น)
  • บ้าน/มีอ่างอาบน้ำ: เลือก “แบบถังเก็บ (Storage)”
  • ธุรกิจ/เน้นประหยัดไฟ/คุ้มทุน: เลือก “ฮีทปั๊ม” หรือ “ระบบ Hybrid”

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ย้ำอีกที “เครื่องทำน้ำอุ่น” กับ “เครื่องทำน้ำร้อน” ต่างกันยังไง?

“เครื่องทำน้ำอุ่น” (Instant) ทำน้ำอุ่นได้ทีละ 1 จุด เหมาะกับฝักบัว “เครื่องทำน้ำร้อน” (System) คือระบบที่จ่ายน้ำร้อนได้หลายจุดพร้อมกัน เหมาะกับอ่างอาบน้ำและทั้งบ้าน

2. เครื่องทำน้ำร้อนแบบถังเก็บ ต้องเปิดไว้ตลอดไหม?

แนะนำให้เปิดไว้ตลอดครับ ระบบมี Thermostat ตัดการทำงานเองเมื่อน้ำร้อนถึงอุณหภูมิ และฉนวนคุณภาพสูงจะเก็บความร้อนได้นาน การปิดๆ เปิดๆ ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟอย่างมีนัยสำคัญ

3. ฮีทปั๊ม (Heat Pump) คุ้มค่าที่จะลงทุนไหม?

สำหรับบ้านที่ใช้น้ำร้อนเยอะ หรือธุรกิจโรงแรม/โรงพยาบาล “คุ้มค่ามาก” ครับ แม้ต้นทุนเริ่มต้นจะสูง แต่ค่าไฟที่ประหยัดได้ 70-90% ทำให้คืนทุนได้ในเวลา 1-3 ปีเท่านั้น

4. ระบบ Hybrid คืออะไร?

คือการใช้เทคโนโลยี 2 อย่างผสมกัน เช่น ใช้ Solar Thermal ทำงานเป็นหลักในตอนกลางวัน และมี Heat Pump เป็นระบบสำรองในตอนกลางคืนหรือวันฝนตก เพื่อให้ได้น้ำร้อน 24 ชม. โดยประหยัดไฟที่สุด

5. อายุการใช้งานของ เครื่องทำน้ำร้อน นานแค่ไหน?

หากเป็นแบรนด์คุณภาพสูงอย่าง Ariston หรือ Everhot และมีการบำรุงรักษา (เช่น เปลี่ยนแท่ง Anode) เครื่องทำน้ำร้อนแบบถังเก็บ สามารถใช้งานได้ยาวนาน 10-15 ปีสบายๆ ครับ

อ้างอิงจาก

  • U.S. Department of Energy:Water Heating” – คู่มือเปรียบเทียบเทคโนโลยีเครื่องทำน้ำร้อนประเภทต่างๆ จากกระทรวงพลังงาน สหรัฐฯ
  • This Old House:All About Water Heaters” – บทความอธิบายภาพรวมของเครื่องทำน้ำร้อนแต่ละประเภท
  • Green Building Advisor:Choices in Water Heaters” – บทความวิเคราะห์ทางเลือกในการทำน้ำร้อนสำหรับอาคารเขียว

ข่าว และบทความอื่นๆ