ในระบบน้ำร้อนขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือโรงพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับ “เครื่องทำความร้อน” (เช่น ฮีทปั๊ม หรือ หม้อต้ม) เป็นอันดับแรก
แต่คุณทราบไหมครับว่า พระเอกตัวจริงที่ทำให้ระบบน้ำร้อนนิ่ง เสถียร และรองรับการใช้งานหนักๆ ได้ คือ “ถังเก็บน้ำร้อน” (Hot Water Storage Tank) หรือที่ในวงการวิศวกรรมเรียกว่า Calorifier Tank ครับ หากเลือกถังผิดสเปก หรือคำนวณขนาดผิดพลาด ต่อให้เครื่องทำน้ำร้อนดีแค่ไหน ระบบก็ล้มเหลวได้ทันที วันนี้ Forbest จะพาคุณไปเจาะลึกวิธีเลือกถังเก็บน้ำร้อนสำหรับงาน Commercial ให้คุ้มค่าและทนทานที่สุดครับ
ทำไมคุณถึงวางใจในข้อมูลของเรา
ที่ Forbest เราคือวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบน้ำร้อนขนาดใหญ่ (Large Scale Hot Water System) มากว่า 40 ปี เราออกแบบและติดตั้งถังเก็บน้ำร้อนขนาดตั้งแต่ 500 ลิตร ไปจนถึง 10,000 ลิตร ให้กับโครงการชั้นนำมากมาย เราเข้าใจปัญหาเรื่องสนิม การสูญเสียความร้อน และแรงดันน้ำในอาคารสูงเป็นอย่างดี ข้อมูลนี้คือ Technical Know-how ที่เราใช้ทำงานจริงครับ
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ Forbest:
- ที่อยู่: 898/24 อาคาร S.V.CITY ตึกออฟฟิศ 2 ชั้น 15 ถ.พระราม3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. 10120
- โทร: (+66) 2682 5381-8
- เว็บไซต์: www.forbest.co.th
- LINE ID: @forbest
ทำไม “ถังเก็บน้ำร้อน” ถึงสำคัญกับ โรงแรม และ โรงพยาบาล?
ถังเก็บน้ำร้อน ไม่ได้มีหน้าที่แค่ “เก็บน้ำ” แต่ทำหน้าที่เหมือน “แบตเตอรี่ความร้อน” (Thermal Battery) ครับ
- รองรับช่วง Peak Load:
- โรงแรม: ช่วงเช้า 7:00-9:00 น. แขกตื่นมาอาบน้ำพร้อมกัน เครื่องผลิตน้ำร้อนอาจผลิตไม่ทัน ถังเก็บน้ำร้อนที่มีขนาดใหญ่พอจะจ่ายน้ำที่สะสมไว้ออกมาช่วย ทำให้แขกไม่เจอน้ำเย็น
- โรงพยาบาล: การใช้งานอาจเกิดขึ้นฉุกเฉินตลอดเวลา ทั้งการแพทย์และซักล้าง ถังเก็บช่วยให้มีน้ำร้อนพร้อมใช้เสมอ
- รักษาอุณหภูมิฆ่าเชื้อ: ถังที่ดีต้องรักษาอุณหภูมิให้สูงกว่า 60°C ได้อย่างเสถียร เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย Legionella ซึ่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในโรงพยาบาล
- ช่วยประหยัดพลังงาน: ถังที่มีฉนวนดี จะช่วยเก็บความร้อนไว้ได้นาน ทำให้เครื่องทำน้ำร้อนไม่ต้องทำงานหนัก (Start/Stop) บ่อยเกินไป
วัสดุถัง (Tank Material) เลือกแบบไหนดีที่สุด?
นี่คือจุดที่ผู้บริหารมักตัดสินใจพลาดเพราะมองแค่ราคาครับ วัสดุถังมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานและความสะอาดของน้ำ
1. ถังเหล็กเคลือบแก้ว (Vitreous Enamel / Glass Lined)
นี่คือมาตรฐานระดับโลกสำหรับระบบน้ำร้อน Commercial ครับ
- จุดเด่น: ภายในถังเหล็กกล้าจะถูกเคลือบด้วยสารคล้ายแก้ว (Enamel) ที่อุณหภูมิสูง ทำให้ผิวเรียบลื่น ทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำร้อนและสารเคมีได้ดีที่สุด ไม่เป็นสนิมง่าย และทนการขยายตัวจากความร้อนได้ดี
- ความเหมาะสม: เหมาะที่สุดสำหรับโรงแรมและโรงพยาบาลที่ต้องการอายุการใช้งานยาวนาน 10-20 ปี (แบรนด์อย่าง Everhot หรือ Rheem ใช้เทคโนโลยีนี้)
2. ถังสแตนเลส (Stainless Steel)
- จุดเด่น: ดูสวยงาม ไม่เป็นสนิมภายนอก
- จุดอ่อน: ในน้ำร้อนที่มีคลอรีนสูง สแตนเลสเกรดทั่วไปอาจเกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting Corrosion) ตามรอยเชื่อมได้ง่ายกว่าแบบเคลือบแก้ว หากเชื่อมไม่ดีอาจรั่วได้เร็ว
ขนาดถัง (Sizing) คำนวณอย่างไรไม่ให้พลาด?
การเลือกขนาดถังสำหรับ โรงพยาบาล และ โรงแรม ต้องให้วิศวกรคำนวณเท่านั้น ห้ามกะประมาณเด็ดขาดครับ โดยมีปัจจัยหลักคือ:
- Recovery Rate: เครื่องทำน้ำร้อนผลิตน้ำได้กี่ลิตร/ชั่วโมง?
- Peak Demand: ช่วงที่คนใช้เยอะที่สุด ใช้น้ำกี่ลิตร?
หลักการง่ายๆ:
- ถ้าเครื่องทำน้ำร้อนกำลังผลิต “น้อย” -> ต้องใช้ถังเก็บขนาด “ใหญ่” (เพื่อสะสมน้ำไว้ล่วงหน้า)
- ถ้าเครื่องทำน้ำร้อนกำลังผลิต “มาก” -> ใช้ถังเก็บขนาด “เล็กลง” ได้
สำหรับโรงแรมขนาด 100-200 ห้อง อาจต้องใช้ถังเก็บขนาดรวมกันตั้งแต่ 2,000 – 5,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับประเภทห้องพัก (มีอ่างอาบน้ำไหม) และประเภทเครื่องทำน้ำร้อนที่ใช้ครับ
เรื่องต้องรู้: ฉนวนกันความร้อน (Insulation)
ถังเก็บน้ำร้อนขนาดใหญ่ ถ้าฉนวนไม่ดี เปรียบเสมือน “กระติกน้ำรั่ว” ครับ คุณจะเสียค่าไฟทิ้งไปกับการแผ่รังสีความร้อนตลอดเวลา
- มาตรฐานที่ดี: ต้องใช้ฉนวน Polyurethane Foam (PU Foam) ความหนาแน่นสูง หนาอย่างน้อย 50mm (2 นิ้ว) ขึ้นไป
- ผลลัพธ์: สามารถเก็บน้ำร้อนข้ามคืนได้โดยอุณหภูมิลดลงเพียง 1-3 องศา ช่วยประหยัดค่าไฟมหาศาล
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ต้องมี (Safety Devices)
ระบบน้ำร้อนแรงดันสูงในอาคาร อันตรายมากหากไม่มีระบบป้องกัน ถังเก็บมาตรฐานต้องมี:
- T&P Relief Valve: วาล์วระบายอุณหภูมิและแรงดัน เพื่อป้องกันถังระเบิดหากระบบรวน
- Magnesium Anode: แท่งแมกนีเซียมเสียสละ ช่วยล่อตะกรันและสนิมไม่ให้กัดกร่อนตัวถัง (ต้องเปลี่ยนตามระยะ)
- Inspection Port: ช่องสำหรับเปิดทำความสะอาดล้างตะกอนก้นถัง
บทสรุป: การลงทุนเพื่อความสบายใจระยะยาว
ถังเก็บน้ำร้อน โรงพยาบาล โรงแรม คือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครับ การเลือกถังคุณภาพสูง (เช่น แบบเคลือบ Vitreous Enamel) ที่มีฉนวนหนาและระบบความปลอดภัยครบครัน อาจมีราคาสูงกว่าถัง local made เล็กน้อย แต่แลกมาด้วยความเสถียร อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 2 เท่า และความสะอาดปลอดภัยที่ประเมินค่าไม่ได้ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ถังเก็บน้ำร้อนควรล้างทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน? สำหรับอาคารขนาดใหญ่ ควรทำการ Flushing (ระบายตะกอนก้นถัง) ทุก 6 เดือน – 1 ปี เพื่อป้องกันตะกอนสะสมซึ่งเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคและทำให้ประสิทธิภาพถังลดลง
2. Magnesium Anode จำเป็นต้องเปลี่ยนไหม? จำเป็นมากครับ มันคือเกราะป้องกันสนิมด่านสุดท้ายของถัง ควรตรวจเช็คทุกปี และเปลี่ยนใหม่เมื่อมันสึกกร่อนไป เพื่อยืดอายุถังให้ใช้งานได้เป็น 10 ปี
3. ถังแบบตั้ง (Vertical) กับแบบนอน (Horizontal) ต่างกันไหม? แบบตั้ง (Vertical) ดีกว่าในแง่ของการแบ่งชั้นอุณหภูมิ (Stratification) ทำให้น้ำร้อนลอยอยู่ด้านบนพร้อมใช้เสมอ แต่ถ้าพื้นที่จำกัดความสูง ก็สามารถใช้แบบนอนได้ครับ
4. ควรหุ้มฉนวนท่อน้ำร้อนที่ออกจากถังไหม? สำคัญที่สุดครับ! ถังเก็บความร้อนดีแค่ไหน แต่ถ้าท่อส่งน้ำ (Piping) ไม่หุ้มฉนวน ความร้อนจะสูญเสียไประหว่างทางมหาศาล ทำให้ปลายทางน้ำไม่ร้อนและเปลืองไฟ
5. แรงดันน้ำในถังทนได้เท่าไหร่? ถังเกรด Commercial มาตรฐานสากล ควรทนแรงดันใช้งาน (Working Pressure) ได้ไม่ต่ำกว่า 7-10 Bar (100-150 PSI) เพื่อรองรับแรงดันในอาคารสูงได้
อ้างอิงจาก
- ASHRAE Handbook: “Service Water Heating” – มาตรฐานวิศวกรรมระดับโลกสำหรับการออกแบบและคำนวณระบบน้ำร้อนในอาคาร
- Spirax Sarco: “Hot Water Storage and Generation” – บทความเชิงเทคนิคเกี่ยวกับหลักการของถังเก็บน้ำร้อนและระบบแลกเปลี่ยนความร้อน
- CIBSE Guide G: “Public Health and Plumbing Engineering” – คู่มือวิศวกรรมระบบประปาและสุขาภิบาลสำหรับอาคารสาธารณะ (รวมถึงโรงพยาบาล)
